เซ็นไฟล์ PDF แบบไหนดีระหว่างใช้ฟรีกับเสียเงินด้วย ลายเซ็น อิเล็กทรอนิกส์?

By Thiha NaingPublished On: June 6, 2025

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ลายเซ็น อิเล็กทรอนิกส์ กลายเป็นมาตรฐานใหม่สำหรับการลงนามในไฟล์ PDF อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การเลือกใช้บริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แบบฟรีหรือแบบมีค่าใช้จ่ายนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการเฉพาะของคุณ ปริมาณเอกสาร และมาตรฐานความปลอดภัยที่จำเป็น บทความนี้จะช่วยเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียของทั้งสองทางเลือก พร้อมแนะนำฟีเจอร์เด่นจากผู้ให้บริการอย่าง Veracity เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

ข้อดีของ Free ลายเซ็น อิเล็กทรอนิกส์

เครื่องมือสำหรับลงนามไฟล์ PDF แบบฟรี เหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปหรือธุรกิจขนาดเล็กที่มีความต้องการใช้งานไม่บ่อยครั้ง ข้อดีหลักได้แก่

ไม่มีค่าใช้จ่าย: ลงนามเอกสารโดยไม่ต้องลงทุนล่วงหน้า
ใช้งานง่าย: อินเทอร์เฟซที่เรียบง่าย เหมาะสำหรับการลงนามอย่างรวดเร็ว
รองรับไฟล์พื้นฐาน: รองรับไฟล์ทั่วไป เช่น PDF, Word และไฟล์อื่นๆ

ข้อจำกัดของเครื่องมือฟรี

จำกัดจำนวนเอกสารที่สามารถลงนามได้ในแต่ละเดือน
ความปลอดภัยพื้นฐาน ไม่มีการเข้ารหัสขั้นสูง
เอกสารอาจมีลายน้ำหรือแบรนด์ของผู้ให้บริการ
ไม่มีหรือมีการเชื่อมต่อกับระบบอื่นๆ อย่างจำกัด
บริการช่วยเหลือลูกค้าไม่เพียงพอ

ทำไม Paid ลายเซ็น อิเล็กทรอนิกส์ ถึงให้คุณค่าได้มากกว่า

บริการลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์แบบมีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับมืออาชีพ องค์กร หรือบริษัทที่ต้องการความปลอดภัยสูง ปฏิบัติตามกฎหมาย และฟีเจอร์ขั้นสูงต่างๆ

ฟีเจอร์เด่นของ Veracity ที่เป็นตัวอย่างโซลูชันแบบเสียเงิน

ฟีเจอร์	คำอธิบาย
Completely Digital Signature Platform	ระบบลงนามดิจิทัลแบบครบวงจรสำหรับไฟล์ PDF และเอกสารอื่นๆ
Compliance with Electronic Transactions Act	ปฏิบัติตามกฎหมายตาม Sections 9, 26 และ 28 ของ Electronic Transactions Act (ETA)
Web API Integration	เชื่อมต่อกับระบบ ERP และกระบวนการทำงานที่มีอยู่แล้ว
Digital Signature Module for PDF	สร้างและส่งไฟล์ PDF ที่ลงนามไปยังผู้รับ
Storage Module with Multiple Certificates	ระบบเก็บรักษาเอกสารพร้อมใบรับรองหลายใบ
Searching Module and History Log	ค้นหาเอกสารและดูประวัติการใช้งานได้อย่างง่ายดาย
Support for Unlimited Multi-Tenant Systems	รองรับการใช้งานสำหรับหลายลูกค้าหรือแผนกภายในองค์กร
Password-Protected Signing	มีชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมด้วยการลงนามผ่านรหัสผ่าน
Permission Systems	ระบบจัดการสิทธิ์สำหรับผู้ใช้งานรายเดียวหรือหลายราย
Flexible Deployment Options	รองรับการติดตั้งแบบ Code Base และ Docker ที่สามารถใช้งานได้ทั้ง Monolith และ Microservice architecture

สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หน้า digital signature platform ของ Veracity

บริการเพิ่มเติมจาก Veracity

veracity

บริการลายเซ็นดิจิทัลสำหรับกระบวนการแบบไร้กระดาษ รวมถึงการออกแบบเอกสาร ฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ (E-Form) กระบวนการทำงานอัตโนมัติ และการประทับตราดิจิทัลบนไฟล์ PDF เพื่อป้องกันการปลอมแปลงข้อมูล
โซลูชันหลากหลายสำหรับเอกสารหลายประเภท เช่น เอกสารภายใน บริษัท เอกสารบัญชี และสัญญาที่จัดการได้หลากหลายรูปแบบ
ระบบเก็บเอกสาร ค้นหา และรักษาความปลอดภัยตามมาตรฐาน PDPA เพื่อความมั่นใจ 100% ในระบบความปลอดภัย
ระบบตรวจสอบสถานะการเข้าถึงเอกสารแบบเรียลไทม์ เพื่อช่วยให้ผู้ดูแลระบบบริหารจัดการได้สะดวก

ตารางเปรียบเทียบ: Free vs. Paid ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์

ฟีเจอร์	Free ลายเซ็น เล็กทรอนิกส์	Paid ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น Veracity)
ค่าใช้จ่าย	ฟรี	จ่ายรายเดือนหรือรายปี
ปริมาณเอกสาร	จำกัด	ไม่จำกัด
ความปลอดภัย	การเข้ารหัสพื้นฐาน	ความปลอดภัยขั้นสูง รหัสผ่าน และปฏิบัติตามกฎหมาย ETA
การปฏิบัติตามกฎหมาย	แตกต่างกัน บางแห่งจำกัด	ปฏิบัติตาม Electronic Transactions Act และ PDPA เต็มรูปแบบ
การเชื่อมต่อระบบ	จำกัดหรือไม่มี	เชื่อมต่อผ่าน API กับระบบ ERP และกระบวนการทำงานอื่นๆ
การสนับสนุนลูกค้า	จำกัด หรือจากชุมชน	บริการช่วยเหลือและสนับสนุนอย่างมืออาชีพ
ฟีเจอร์เสริม	การลงนามพื้นฐาน	กระบวนการทำงานเอกสาร, ประวัติการลงนาม, รองรับ Multi-Tenant
ความยืดหยุ่นในการติดตั้ง	ใช้ได้เฉพาะ Cloud	รองรับ Cloud, On-premise, Docker, Monolith และ Microservices

สรุป: ควรเลือกใช้ ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ แบบไหนดีสำหรับการลงนาม PDF

เลือก Free ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์เมื่อ:
คุณมีความต้องการลงนามไม่บ่อย ความปลอดภัยไม่ซับซ้อน และต้องการใช้บริการฟรี
เลือก Paid ลายเซ็นอิเล็กทรอนิกส์ เมื่อ:
คุณต้องการความปลอดภัยสูง ปฏิบัติตามกฎหมาย ใช้งานไม่จำกัด เชื่อมต่อกับระบบธุรกิจ และต้องการฟีเจอร์จัดการเอกสารขั้นสูง เช่น Veracity ที่มอบแพลตฟอร์มครบวงจรสำหรับธุรกิจ พร้อมระบบอัตโนมัติและเก็บรักษาเอกสารอย่างปลอดภัย

นอกจากนี้ หากต้องการขยายการทำงานของระบบดิจิทัลหรือรวมบริการต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน คุณอาจพิจารณาใช้แพลตฟอร์มอย่าง Jarviz, Seed, Optimistic และ ChatFramework ที่เสริมการจัดการเอกสารและการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น