Table of Contents

Digital Signature ใน PDF: วิธีทำงานและวิธีสร้างอย่างปลอดภัย 

By Published On: September 2, 2025

Share This Story,

Digital Signature ใน PDF

ในสภาพแวดล้อมธุรกิจยุคดิจิทัล การยืนยันความถูกต้องและความสมบูรณ์ของเอกสารถือเป็นสิ่งสำคัญ หนึ่งในวิธีที่เชื่อถือได้มากที่สุดในการรักษาความปลอดภัยของเอกสารคือ Digital Signature ใน PDF ซึ่งแตกต่างจากการใช้ภาพลายเซ็นเพียงอย่างเดียว เพราะลายเซ็นดิจิทัลมาพร้อมการเข้ารหัส การรับรองทางกฎหมาย และการตรวจสอบไม่ให้แก้ไขเอกสารโดยไม่ได้รับอนุญาต 

 

การทำงานของ Digital Signature 

ลายเซ็นดิจิทัลใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสเพื่อยืนยันตัวตนของผู้ลงนามและตรวจสอบว่าเอกสารไม่ได้ถูกแก้ไขหลังจากลงนาม ขั้นตอนการทำงานมีดังนี้: 

  1. การยืนยันตัวตนด้วยใบรับรอง (Certificate-Based Authentication)
    ผู้ลงนามจะได้รับใบรับรองดิจิทัลจากหน่วยงานออกใบรับรองที่เชื่อถือได้ (Certificate Authority – CA) เพื่อยืนยันตัวตน 
  2. การสร้างรหัสแฮชของเอกสาร (Document Hashing)
    เมื่อทำการลงนามใน PDF เอกสารถูกแปลงเป็นรหัสแฮชเฉพาะ หากเอกสารถูกแก้ไขหลังจากลงนาม รหัสแฮชจะเปลี่ยนไป ทำให้สามารถตรวจจับการปลอมแปลงได้ 
  3. การเข้ารหัส (Encryption)
    รหัสแฮชจะถูกเข้ารหัสด้วยคีย์ส่วนตัวของผู้ลงนาม ทำให้เกิดลายเซ็นดิจิทัลเฉพาะตัว ซึ่งถูกแนบกับไฟล์ PDF 
  4. การตรวจสอบ (Verification)
    ผู้รับเอกสารสามารถใช้คีย์สาธารณะของผู้ลงนามเพื่อถอดรหัสลายเซ็นและตรวจสอบความสมบูรณ์ของเอกสาร หากเอกสารถูกแก้ไข การตรวจสอบจะล้มเหลว แจ้งให้ผู้รับทราบถึงความเสี่ยงการแก้ไขเอกสาร 

กระบวนการนี้ช่วยให้มั่นใจในความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และไม่สามารถปฏิเสธการลงนามได้ ซึ่งเป็นประโยชน์สำคัญสำหรับเอกสารทางกฎหมายและธุรกิจ 

 

วิธีสร้าง Digital Signature 

การสร้างลายเซ็นดิจิทัลในปัจจุบันง่ายและปลอดภัยมากขึ้นด้วยเครื่องมือและแพลตฟอร์มสมัยใหม่ Digital Signature ใน PDF สามารถใช้ได้กับเอกสาร PDF, Word, Excel และไฟล์ดิจิทัลอื่น ๆ เพื่อรับรองความถูกต้องและการปฏิบัติตามกฎหมาย 

ขั้นตอนการสร้างลายเซ็นดิจิทัลมีดังนี้: 

  1. เลือกเครื่องมือหรือแพลตฟอร์มที่เหมาะสม
    เลือกแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ เช่น Veracity ซึ่งมีการเข้ารหัสระดับองค์กร การจัดการใบรับรอง และการผสานเข้ากับเวิร์กโฟลว์ได้อย่างราบรื่น สำหรับการลงนามเอกสารเฉพาะ ซอฟต์แวร์อย่าง Adobe Acrobat, Foxit PDF หรือ Microsoft Office ก็สามารถใช้งานได้ 
  2. ขอรับใบรับรองดิจิทัล
    ใบรับรองดิจิทัลช่วยยืนยันตัวตนและทำให้ลายเซ็นได้รับการยอมรับทางกฎหมาย สามารถขอจากหน่วยงานออกใบรับรอง (CA) หรือใช้ระบบลายเซ็นดิจิทัลภายในองค์กร เช่น Veracity 
  3. เลือกเอกสารที่ต้องการลงนาม
    เปิดเอกสารที่ต้องการลงนาม เช่น PDF, สัญญา, สเปรดชีต หรือไฟล์อื่นที่รองรับโดยแพลตฟอร์มที่เลือก 
  4. ลงนามดิจิทัล
    ใช้เครื่องมือที่เลือก เลือกตัวเลือกการลงนามดิจิทัล และวางลายเซ็นในตำแหน่งที่กำหนด แพลตฟอร์มอย่าง Veracity จะเข้ารหัสลายเซ็นอัตโนมัติและแนบกับไฟล์อย่างปลอดภัย 
  5. ตรวจสอบและบันทึก
    หลังจากลงนามแล้ว บันทึกเอกสาร ผู้รับสามารถตรวจสอบลายเซ็นด้วยเครื่องมือเดียวกันหรือซอฟต์แวร์ที่รองรับ หากเอกสารถูกแก้ไขหลังจากลงนาม การตรวจสอบจะจับได้ เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของไฟล์ 
  6. ตัวเลือกเสริม: ผสานเข้ากับระบบเวิร์กโฟลว์
    สำหรับธุรกิจ การผสานลายเซ็นดิจิทัลเข้ากับเวิร์กโฟลว์ของ HR, การเงิน หรือกฎหมาย ช่วยให้อนุมัติเอกสารเร็วขึ้น ลดเวลา และเพิ่มการปฏิบัติตามข้อกำหนด แพลตฟอร์มอย่าง Veracity รองรับการลงนามจำนวนมาก การติดตามตรวจสอบ และการจัดเก็บเอกสารอย่างปลอดภัย 

วิธีการใช้ Digital Signature 

ลงนามรูปแบบใหม่แบบปลอดภัย แทนกระดาษ

การใช้ Digital Signature กับ Veracity นั้นง่ายและปลอดภัย: 

  1. เลือกเอกสาร PDF ของคุณ – เปิดไฟล์ PDF ที่ต้องการลงนาม 
  2. เลือกตัวเลือก Digital Signature – คลิก ‘Sign’ หรือ ‘Certify’ ใน Veracity หรือเครื่องมือ PDF ที่ผสานกับ Veracity 
  3. ยืนยันตัวตนของคุณ – ผ่านการยืนยันด้วยใบรับรองดิจิทัลที่ออกโดย Veracity 
  4. ลงนามของคุณ – วางลายเซ็นในตำแหน่งที่ต้องการในไฟล์ PDF 
  5. บันทึกและแชร์ – ไฟล์ PDF ที่ลงนามแล้วถูกเข้ารหัสและพร้อมแชร์ ผู้รับสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ทันที 

ขั้นตอนเหล่านี้ทำให้การลงนามเอกสารเร็วขึ้น ปลอดภัยขึ้น และเชื่อถือได้มากกว่าวิธีการแบบกระดาษ 

 

ประโยชน์ของการใช้ Digital Signature ใน PDF 

  • ความปลอดภัย: ป้องกันการแก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาตและรักษาข้อมูลสำคัญ 
  • ประสิทธิภาพ: ลงนามและแชร์เอกสารแบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องพิมพ์หรือสแกน 
  • การปฏิบัติตามกฎหมาย: ได้รับการยอมรับตามกฎหมาย เช่น eIDAS (EU) และ ESIGN Act (US) 
  • ตรวจสอบย้อนหลังได้: สามารถติดตามว่าใครลงนามและเมื่อใด เพื่อความรับผิดชอบ 

 

วิธีการทำงานของ Veracity Digital Signatures 

Veracity ใช้การเข้ารหัสขั้นสูงและการยืนยันตัวตนด้วยใบรับรองเพื่อให้มั่นใจว่าเอกสารที่ลงนามปลอดภัย ถูกต้อง และไม่ถูกปลอมแปลง 

  • การตรวจสอบใบรับรอง: Veracity ยืนยันตัวตนผู้ลงนามด้วยใบรับรองดิจิทัลที่เชื่อถือได้ 
  • การสร้างรหัสแฮชของเอกสาร: PDF ถูกแปลงเป็นรหัสแฮชเฉพาะ หากเอกสารถูกแก้ไขหลังการลงนาม รหัสแฮชจะเปลี่ยน 
  • การเข้ารหัส: รหัสแฮชถูกเข้ารหัสด้วยคีย์ส่วนตัวของผู้ลงนาม สร้างลายเซ็นดิจิทัลเฉพาะตัวที่แนบกับ PDF 
  • การตรวจสอบ: ผู้รับสามารถใช้คีย์สาธารณะของผู้ลงนามเพื่อตรวจสอบความถูกต้องและความสมบูรณ์ของเอกสาร 

กระบวนการนี้รับประกันความถูกต้อง ความสมบูรณ์ และการปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้ Veracity เป็นโซลูชันที่เชื่อถือได้สำหรับธุรกิจยุคดิจิทัล 

ทำไมควรเลือก Veracity สำหรับ Digital Signatures 

Veracity เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้สำหรับสร้าง จัดการ และตรวจสอบ Digital Signature ใน PDF โดยมีข้อได้เปรียบสำคัญดังนี้: 

  • ความปลอดภัยระดับองค์กร: เข้ารหัสตั้งแต่ต้นจนจบ และปฏิบัติตามมาตรฐานสากล 
  • อินเทอร์เฟซใช้งานง่าย: ขั้นตอนการลงนามสะดวกสำหรับทั้งพนักงานและลูกค้า 
  • การผสานรวม: ทำงานได้ราบรื่นกับเวิร์กโฟลว์ HR, การเงิน และระบบกฎหมาย 
  • ความสามารถในการปรับขนาด: เหมาะกับองค์กรทุกขนาด 

ความสำคัญของ Digital Signatures สำหรับธุรกิจยุคปัจจุบัน 

  • ความปลอดภัยและความสมบูรณ์: ป้องกันการปลอมแปลงและการทุจริตในเอกสารสำคัญ 
  • ประสิทธิภาพ: เร่งการอนุมัติ ลดการพึ่งพากระบวนการแบบกระดาษ 
  • การปฏิบัติตามกฎหมาย: ได้รับการยอมรับตามกฎหมายสากล เช่น eIDAS และ ESIGN 
  • ตรวจสอบย้อนหลังได้: ลายเซ็นทุกตัวสามารถติดตามพร้อมบันทึกเวลาและการตรวจสอบ 
  • รองรับการทำงานระยะไกล: ช่วยให้ทีมงานหรือผู้รับเอกสารทั่วโลกลงนามได้อย่างปลอดภัย 

การนำ Digital Signature ใน PDF มาใช้ช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงเวิร์กโฟลว์ ลดต้นทุนดำเนินงาน และสร้างความเชื่อมั่นกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 

สรุป 

Digital Signature ใน PDF ไม่ใช่เรื่องเลือกได้อีกต่อไป แต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยของเวิร์กโฟลว์และเอกสารทางกฎหมาย ด้วยแพลตฟอร์มอย่าง Veracity ธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าเอกสารถูกต้อง ปลอดภัย ประหยัดเวลา และสอดคล้องกับมาตรฐานกฎหมาย 

สำรวจวิธีที่ Veracity ช่วยเปลี่ยนกระบวนการลงนามเอกสารของคุณให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น: [Veracity] 

สำหรับข้อมูลและเครื่องมือทางธุรกิจดิจิทัลเพิ่มเติม สามารถเยี่ยมชมแหล่งความรู้และบริการได้จาก Jarviz, Seed, Optimistic, และ ChatFramework ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยเสริมพลังการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลขององค์กรคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แจ้งให้ทราบเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เทคโนโลยีของ Microsoft และวิธีการใช้ให้มีประสิทธิภาพอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องนี้

สนับสนุนเว็บไซต์ใหม่ของเราในภาษาอื่น: ThetysFusionsol VN

Fusion ยินดีอย่างยิ่งที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์ M365, Power BI และ Seed สู่ตลาดเวียดนาม เพื่อเสริมศักยภาพธุรกิจด้วยโซลูชันล้ำสมัย!

บทความอื่นๆ

Fusionsol blog in Vietnamese

สำรวจหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล:

โปรโมชั่นสินค้าอื่นๆ

หากคุณสนใจผลิตภัณฑ์อื่นๆ ของเรา โปรดไปที่นี่:

Frequently Asked Questions (FAQ)

ในวิชาการพยาบาล, veracity คือหลักจริยธรรมเกี่ยวกับความซื่อสัตย์และความจริงใจ สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ, นี่หมายถึงการพูดความจริงเกี่ยวกับการวินิจฉัย, การทำนายโรค, ตัวเลือกการรักษา และความเสี่ยงและผลประโยชน์ของตัวเลือกเหล่านั้น

Veracity หมายถึง คุณภาพ, ความถูกต้อง, ความครบถ้วน และความน่าเชื่อถือของข้อมูล ข้อมูลที่เก็บรวบรวมอาจมีส่วนที่ขาดหายไป อาจไม่ถูกต้อง หรืออาจไม่สามารถให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและเป็นจริงได้ โดยรวมแล้ว veracity หมายถึงระดับของความเชื่อมั่นในข้อมูลที่รวบรวมมา

“Veracity” เกี่ยวกับบุคคลที่กล่าวถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความซื่อสัตย์ของพวกเขา ในขณะที่ “Validity” จะเกี่ยวกับข้อเท็จจริงนั้นเองและว่ามันถูกต้องหรือไม่

Verasity (VRA) คือ cryptocurrency ที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศของ Verasity ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้บัญชีแยกประเภทเปิดที่มุ่งเน้นการนำความไว้วางใจและความโปร่งใสมาสู่การโฆษณาดิจิทัลและการชำระเงิน โทเค็นนี้ใช้ในการสนับสนุนแคมเปญโฆษณา ภายใน VeraWallet และเป็นพื้นฐานสำหรับ VeraPay

Veracity คือหลักการของการบอกความจริงและเกี่ยวข้องกับหลักการของอัตลักษณ์ (autonomy) Veracity เป็นพื้นฐานของความไว้วางใจในความสัมพันธ์ระหว่าง “แพทย์-ผู้ป่วย” (หรือในกรณีของเด็ก, ความสัมพันธ์ระหว่าง “แพทย์-เด็ก-พ่อแม่/ผู้ดูแล”) Veracity ช่วยให้สามารถตั้งเป้าหมายการรักษาที่มีความหมายและความคาดหวังที่เหมาะสม

Leave A Comment

By Published On: September 2, 2025